ข้อควรรู้ ก่อน การตรวจเอดส์ (Pre-test counseling / Pre-test information)

By | ธันวาคม 24, 2017

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ sex

 

  1. เรามีโอกาสจะติดเอดส์ไหม?  เช่นเคยเสพยาโดยการฉีด  หรือเคยมีเพศสัมพันธ์กับใครโดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยหรือไม่  (แม้กระทั่งกับสามีหรือภรรยาของเราเอง เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อมาก่อนหรือไม่)
  2. รู้ประโยชน์ของการตรวจหรือไม่  เช่น  ถ้าตรวจไม่เจอ  จะได้เริ่มต้นป้องกันตัวเองอย่างจริงจัง  หรือถ้าตรวจเจอ  ต้องถือว่าโชคดีที่รู้ตัวก่อนที่จะป่วยขึ้นมา  จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ป่วยหรือเสียชีวิตจากเอดส์  อีกทั้งสามารถป้องกันคนที่เรารักและคนอื่นๆ ไม่ให้ติดเชื้อจากเรา
  3. รู้หรือว่าตอนนี้  เอดส์รักษาได้  แม้จะไม่หายขาด  คนไทยทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการรักษาฟรีหมด  และถ้ารักษาแต่เนิ่นก็จะได้ไมป่วย  หรือเสียชีวิตจากโรคเอดส์  สามารถมีอายุยืนยาวได้เท่ากับคนอื่น  และไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น
  4. ต้องรับรู้ว่าการตรวจเอดส์อาจเกิดผลเสีย (โทษ)ก็ได้  เช่น  คนอื่นอาจคิดว่าเราเป็นคนไม่ดี  จึงต้องไปตรวจ  ทั้งๆ ที่คนที่ไปตรวจน่าจะได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง  ต่อครอบครัว  และต่อสังคม  หรือถ้าตรวจเจออาจเป็นทุกข์ใจแสนสาหัสในช่วงต้น  แต่ถ้าได้รับการปรึกษาและเข้าใจกระบวนการดูแลสุขภาพ จะทำให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปได้
  5. ถ้าผลตรวจออกมาเป็นลบ  (ไม่ติดเชื้อ)  หรือถ้าออกมาเป็นบวก  (ติดเชื้อ)  เราจะทำอะไรต่อ  รวมทั้งจะบอกหรือไม่บอกผลเลือด (ทั้งบวกและลบ) กับใคร  ด้วยเหตุผลอย่างไร
  6. ต้องชั่งดูว่าประโยชน์ของการตรวจเอดส์ ซึ่งล้วนแต่เป็นความจริง  และมีประโยชน์สำหรับทุกคนเพื่อวางแผนในการดูแลสุขภาพ  จะมีมากกว่าผลเสียที่ล้วนเป็นเพียงการคาดเดาหรือไม่  ถ้าประโยชน์มีมากกว่า  เราสมัครใจจะตรวจจริง ๆ นะ  ไม่มีใครบังคับหรือหลอกเรานะ
  7. ต้องเข้าใจเรื่องของWindow  period  กล่าวคือ  ระยะเวลาที่ยังอาจตรวจไม่เจอ  เพราะเพิ่งได้รับเชื้อเข้ามาไม่ถึง  14  วัน  เป็นต้น  ดังนั้น  ในระหว่างที่รอไปอีก 1-2สัปดาห์เพื่อไปตรวจใหม่  จึงยังต้องใส่ถุงยางอนามัยกับคู่นอนไปก่อน  แม้ว่าจะตรวจครั้งแรกไม่เจอแล้วก็ตาม
  8. ต้องเข้าใจความสำคัญของการพาคู่นอนมาตรวจพร้อมกัน  จะได้บอกผลให้กันและกันง่ายขึ้น  และจะได้ปลอดภัยจริง ๆ แม้จะไม่ใส่ถุงยางอนามัย
  9. ในกรณีที่ตรวจแล้วผลเป็นลบ  จะต้องมีความเข้าใจว่าจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในอนาคตอย่างไร  หรือป้องกันตนเองอย่างไร  จะได้ไม่ติดเอดส์ไปตลอดชีวิต  เช่น  การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์กับใครที่ไม่เคยรู้ผลเลือดเอดส์ของตัวเองเลย  หรือการเลิกเสพยา  หรือใช้เข็มสะอาดทุกครั้งที่ฉีดยาเสพติดเข้าเส้นเลือด
  10. และถ้าพลาดพลั้งไป  มีพฤติกรรมที่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีอีก  ต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาป้องกัน และควรตรวจเอดส์ซ้ำ  โดยที่ในระหว่างรอไปตรวจเลือดซ้ำ  จะต้องใส่ถุงยางอนามัยกับคู่นอนของตัว ซึ่งเคยไปตรวจเอดส์แล้วไม่พบไปก่อน