น้ำยา GEN4 มีที่ไหนบ้าง ตรวจสุขภาพ ตรวจหาโรคเอชไอวี (HIV)

By | ตุลาคม 6, 2020

น้ำยา GEN4 มีที่ไหนบ้าง

น้ำยา Gen4 มี ที่ไหน บ้าง โรคเอชไอวี (HIV) เป็นเชื้อไวรัส ชนิดหนึ่ง ที่ก่อ ให้เกิดโรคเอดส์ (AIDS) ซึ่งจะแพร่เชื้อ ผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก โดยไม่ได้มีการป้องกัน เชื้อไวรัสเอชไอวีชนิดนี้ จะสามารถแพร่เชื้อ ได้ แม้มีเพศสัมพันธ์ ทางปาก หากไม่ได้ มีการป้องกัน ก็สามารถ ติดได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้แล้ว เชื้อเอชไอวี ยังสามารถแพร่เชื้อ หรือติดต่อ ได้ผ่านทางเลือด การใช้ยาเสพติด หรือ การใช้เข็มฉีดยา ร่วมกับผู้อื่น ดังนั้นการเข้ารับ การตรวจ จึงเป็นทางออกที่ จะช่วยให้คุณ คลายความกังวลใจ  และหาสาเหตุ การติดเชื้อ เพื่อเข้า รับการรักษา ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม

การตรวจ หาเชื้อเอชไอวี ในสมัย ปัจจุบันนี้ เมื่อได้รับเชื้อ เข้าไปสู่ร่างกายแล้ว เชื้อเอชไอวี จะเข้าไปทำลาย เม็ดเลือดขาว และเข้าไปทำลาย ระบบภูมิคุ้มกัน ให้มีการทำงาน ที่บกพร่อง จนไม่สามารถต่อสู้ หรือกำจัดเชื้อ ที่เข้าไปสู่ ร่างกายได้

น้ำยา Gen4 มี ที่ไหน บ้าง โดยปกติแล้ว การตรวจหาเชื้อเอชไอวี ส่วนใหญ่จะเป็น การตรวจหาสาร antibody ซึ่งเรา มีความจำเป็น ที่จะต้องรอ ให้ร่างกาย มีการสร้างแอนติบอดี ต่อเชื้อ ขึ้นมาก่อน จึงจะสามารถตรวจพบเชื้อได้ ในปัจจุบันโรงพยาบาลส่วนใหญ่ หากมีการตรวจ หาเชื้อเอชไอวี มักจะนิยมใช้ น้ำยา Gen 3 และน้ำยา Gen 4 ตรวจโดยการใช้น้ำยา 3rd Generation เป็นการตรวจหาแอนติบอดี ต่อเชื้อ ตรวจพบเชื้อได้ภายใน 21 วัน และน้ำยา 4th Generation เป็นการตรวจหา แอนติบอดีต่อเชื้อ และ P24 Antigen คือ จะเป็นการตรวจหาทั้ง แอนติบอดี และ แอนติเจน ซึ่งจะสามารถ ตรวจพบเชื้อ ได้ประมาณ 14 วัน นอกจากนี้ แล้วการตรวจหาเชื้อเอชไอวี โดยหลัก ๆ จะแบ่งวิธี การตรวจออกเป็น 3 วิธี คือ

– การตรวจแบบ Anti-HIV antibody วิธีการตรวจนี้ เป็นการตรวจหาภูมิต้านทาน แอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี ซึ่งจะทำการตรวจผ่านทางเลือด โดยจะมีการวินิจฉัย การทำงาน ของระบบภูมิต้านทาน ในเม็ดเลือดขาว ที่มีการต้านทานต่อเชื้อเอชไอวี วิธีการตรวจนี้ จะสามารถตรวจพบเชื้อ ได้ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ – 3 เดือน หลังจากติดเชื้อมาแล้ว

– การตรวจแบบ NAT (Nucleic Acid Testing) วิธีการตรวจนี้จะเป็นการตรวจ หาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวีด้วยการตรวจปริมาณของเชื้อภายในร่างกาย วิธีการตรวจนี้ทางแพทย์มักจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยนั้นมีความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ซึ่งสามารถตรวจพบเชื้อได้ภายในระยะเวลาเพียง 1-4 สัปดาห์เท่านั้น

– การตรวจแบบ PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมในระดับอณูชีวโมเลกุล วิธีการนี้สามารถใช้ตรวจได้กับทารกที่อาจได้รับเชื้อมาจากมารดาหลังจากคลอดมาแล้วประมาณ 1 เดือน และสามารถใช้ตรวจได้กับผู้ใหญ่หลังจากได้รับเชื้อมาแล้ว หรือมีความเสี่ยงมาแล้วประมาณ 14 วันขึ้นไป
นอกจากนี้ หากใครที่กำลังมีความเสี่ยง และต้องการตรวจหาเชื้อด้วยน้ำยา GEN4 สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ตามโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลรัฐ หรือคลินิกนิรนามต่าง ๆ ที่มีการตรวจหาเชื้อด้วยน้ำยา GEN4 แนะนำว่าให้ติดต่อสอบถามก่อนเข้ารับการตรวจ

อย่างไรก็ตาม หากใคร ที่มีความเสี่ยง ต่อการได้รับเชื้อ และไม่กล้าเดินทางไปตรวจ ตามโรงพยาบาล หรือคลินิก ปัจจุบันนี้ก็ได้มีชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ที่ใช้น้ำยา GEN4 ในการตรวจหาเชื้อ โดยจะมีความไวในการตรวจ ให้ผลตรวจได้อย่างแม่นยำมากกว่า 99% ดังนั้นหากรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงก็รีบทำการตรวจตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากรู้ผลไวก็จะได้เข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้อง