อาการติดเชื้อHIV มีลักษณะอย่างไร?

By | เมษายน 28, 2020

อาการติดเชื้อhiv

อาการติดเชื้อHIV โรคเอชไอวี (HIV) เป็นโรคที่เกิดจาก เชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง จะแพร่เชื้อ ขณะมีเพศสัมพันธ์ ผ่านทางช่องคลอด หรือ ทางทวารหนัก โดยที่ไม่ได้ป้องกัน เชื้อไวรัสชนิดนี้ จะสามารถ แพร่เชื้อได้ ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ทางปาก โดยไม่ได้ป้องกัน โดยเฉพาะถ้าหากว่า ฝ่ายชายนั้น ต้องหลั่งอสุจิภายในปาก และหากว่าช่องปากนั้น มีบาดแผล นอกจากนี้แล้ว เชื้อไวรัสเอชไอวี ก็ยังสามารถติดต่อได้ ผ่านทางเลือด หากว่าคุณใช้หลอด หรือ เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสชนิดนี้

อาการ ของโรคเอชไอวี

หากเกิด การติดเชื้อเอชไอวี ในช่วงแรก ๆ จะยังไม่รู้สึกถึงอาการใด ๆ หรือบางคน อาจจะมีอาการเจ็บคอ บ้างเล็กน้อย มีไข้ และต่อมน้ำเหลืองโต หรือบางคนอาจเป็นผื่น ขึ้นตามร่างกาย ซึ่งอาการจะปรากฏ ในประมาณ 1-4 สัปดาห์ หลังจากที่ติดเชื้อ โดยจะเรียกว่า อาการติดเชื้อระยะแรก อาจจะมีอาการคล้าย ๆ กับเป็นไข้หวัด และมักจะหายหลังจาก 1 สัปดาห์ แต่เชื้อไวรัส ก็จะยังค่อย ๆ ไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย ให้อ่อนแอลงเรื่อย ๆ และเชื้อจะแพร่กระจายมากขึ้น ในช่วง 2-3 เดือนแรก หลังจากที่ติดเชื้อ จึงทำให้ปริมาณของเชื้อ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่ระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย จะมีการตอบโต้ทัน หรือว่าจะมีอาการ หรือไม่มีอาการก็ตาม

ระยะ ของการติดเชื้อเอชไอวี มี 3 ระยะ ( อาการติดเชื้อHIV ) คือ

– ระยะเฉียบพลัน (Acute HIV Infections) ซึ่งเป็นระยะแรกของ การติดเชื้อเอชไอวี จะเกิดขึ้นระหว่าง 2-4 สัปดาห์ หลังจากการติดเชื้อ ในระยะแรกนี้ ผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จะเริ่มมีอาการ คล้ายกับเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น เจ็บคอ มีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดหัว และมีผื่นขึ้น ซึ่งจะเรียกอาการเหล่านี้ว่า เฉียบพลัน หรือ acute retroviral syndrome (ARS) จะเกิดขึ้น จากการที่ร่างกาย มีการตอบสนอง ต่อการติดเชื้อเอชไอวี ในระยะนี้ เชื้อเอชไอวี จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เป็นจำนวนมากในร่างกาย ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว ในร่างกายลดจำนวนลง อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นระยะ ที่มีความเสี่ยงสูงมาก ที่ผู้ป่วยจะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการป้องกัน การแพร่กระจาย ของเชื้อเอชไอวี

– ระยะสงบทางคลินิก (Clinical Latency Stage) จะเป็นระยะที่เชื้อไวรัสอยู่ภายในร่างกาย โดยที่ไม่แสดงอาการ หรืออย่างมาก ก็มีอาการเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะเรียกระยะนี้ว่า ระยะติดเชื้อเรื้อรัง (chronic HIV infection) โดยในระยะนี้ เชื้อไวรัสจะมีปริมาณที่เพิ่มากขึ้น ในระดับต่ำ และมักจะใช้ระยะเวลาถึง 10 ปี หรือสำหรับผู้ติดเชื้อบางราย อาจจะใช้เวลาน้อยกว่านั้น

– ระยะ โรคเอดส์ (AIDS) เป็นการติดเชื้อในขั้นสุดท้าย ของการติดเชื้อเอชไอวี โดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่แข็งแรงมีปริมาณ ของเซลล์เม็ดเลือดขาว อยู่ระหว่าง 500-1,600 ในขณะที่ผู้ป่วยโรคเอดส์นั้น จะมีเซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำกว่า 200 เมื่อถึงจุดนี้ ระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายได้ถูกทำลายลง อย่างรุนแรง จนทำให้ผู้ป่วย มีการติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่าย

ซึ่งเกิดจากเชื้อโรค ที่ไม่ก่อให้เกิดโรค ในคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง แต่ทำให้เกิดโรค กับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ไม่ว่าผู้ป่วย จะมีปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวเท่าใดก็ตาม

จากที่กล่าวมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม หากคุณมีความกังวล ว่าคุณอาจติด เชื้อเอชไอวี ก็ควรที่จะทำการตรวจเลือดด้วย ชุดตรวจคัดกรองเบื้องต้น สามารถตรวจได้เองที่บ้าน ปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็ว และง่ายมาก ๆ

สำหรับ ผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางไป ตรวจตามสถานพยาบาล เพราะหากตรวจพบ การติดเชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความกังวลใจ และทำให้คุณได้รับการรักษา ที่ถูกต้อง และเหมาะสม