ชุดตรวจโรคติดต่อทาง เพศ การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD test)

By | พฤษภาคม 25, 2020

 

ชุดตรวจโรคติดต่อทาง เพศ

ชุดตรวจโรคติดต่อทาง เพศ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นโรคที่ติดต่อ จากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง ผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่มีการป้องกัน ซึ่งจากเดิม จะเรียกว่า กามโรค แทนการเรียก โรคเหล่านี้ คือ หนองใน แผลริมอ่อน ซิฟิลิส เป็นต้น ปัจจุบันก็ยังพบว่า มีโรคติดต่ออีกหลายชนิด ที่สามารถติดต่อได้ผ่านทางวิธีอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถ ติดต่อได้ผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ กับผู้ป่วยอีกด้วย ดังนั้นเราจึงเรียก โรคเหล่านี้ว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ โรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัสชนิดบี โรคภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง จากเชื้อเอดส์ เป็นต้น

ปัจจุบันการรักษา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีหลากหลายวิธี โดยมีหลักการที่สามารถกำจัดเชื้อทั้งหมดในร่างกาย ลดการทุกข์ทรมาน จากการเจ็บป่วย และป้องกัน การเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตลอดจน การป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ และแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นอีกด้วย ทั้งนี้ยา ที่ใช้สำหรับรักษา อาจมีหลายชนิดแตกต่างกันออกไป เช่น ยาฉีด ยารับประทาน หรือยาเหน็บช่องคลอด เป็นต้น

แต่ระยะเวลาในการรักษา ก็ย่อมแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ชนิด และระยะของโรค ซึ่งการรักษาโรคติดต่อทางเพศ ด้วยยา ไม่ว่าจะขนาดเท่าใด หรือนานแค่ไหน ก็ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ หากมีซื้อยามารับประทานเอง อาจจะทำให้ ไม่หายขาดจากโรคนี้ได้ หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อน จากโรคที่เป็นอยู่

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บางชนิดที่ไม่สามารถรักษา ให้หายขนาดได้ คือ โรคภาวะภูมิคุ้มกัน ในร่างกายบกพร่อง จากการติดเชื้อเอดส์ โดยการรักษา จะมุ่งเน้นไปที่ การประคับประคองผู้ป่วย เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนการติดเชื้อซ้ำเติม การมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม และปลอดภัย เช่น การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใช้ถุงยางอนามัย การเปลี่ยนคู่นอนหลายคน ซึ่งอาจมีความเสี่ยง ในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ฉะนั้น หากใครที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ก็ควรทำการเข้ารับการตรวจ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือทำการตรวจ STD (Sexually-Transmitted Diseases) เพื่อความปลอดภัย ของตนเอง และหากรู้ว่าติดเชื้อก็จะได้เข้ารับการรักษา ได้อย่างเหมาะสม และถูกต้อง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

ชุดตรวจโรคติดต่อทาง เพศ  โรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ ยกเป็นอีกหนึ่ง สาเหตุที่สามารถ ก่อให้เกิดการติดเชื้อ เอชไอวี หรือเอดส์ ซึ่งอาจมีแนวทางหนึ่ง ที่จะช่วยในการชะลอ การระบาดของ เชื้อไวรัสเอชไอวี คือการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อวินิจฉัยเชื้อเอชไอวี รวมถึง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อีกด้วย

เพราะเนื่องจาก โรคเหล่านี้ จะไม่มีการแสดงอาการ ที่เจาะจง และการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส (Syphilis) หนองในเทียม (Chlamydia) หนองในแท้ (Gonorrhea) เริมที่อวัยวะเพศ (Herpes Simplex Virus Type II) เป็นต้น

ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยง ในการแพร่เชื้อเอชไอวี ไปสู่ผู้อื่นสูงมาก ชุดตรวจเอชไอวีในปัจจุบันนี้ จึงได้มีการพัฒนา ให้ใช้งานได้ง่าย ซึ่งอาจมีความคล้ายคลึงกัน กับเครื่องตรวจนำตาลในเลือด หรือชุดตรวจเบาหวาน ที่สามารถใช้ตรวจได้ด้วยตนเอง โดยไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และอุปกรณ์นั้น ยังมีขนาดเล็กอีกด้วย

ชุดตรวจ ที่นำมาใช้ ในการตรวจหาการติดเชื้อ ได้ผ่านการทดสอบ การใช้งานจริง โดยโรงพยาบาล และคลินิกต่าง ๆ จึงทำให้ผลการทดสอบ ที่มีความแม่นยำ กับความเป็นจริงที่สุด อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ปลดล็อค ให้ประชาชนสามารถเข้าถึง ชุดตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชวี ด้วยตนเอง เพื่อยุติเกี่ยวกับปัญหา การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคติดต่ออื่น ๆ เพื่อเป็นทางเลือก แทนที่จะ ไปตรวจตามโรงพยาบาล หรือคลินิก

จากที่กล่าวมาข้างต้น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะมีหลากหลายชนิด ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนั่นก็อาจเป็นปัญหา ที่สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ได้ ดังนั้น หากใครที่ไปมีพฤติกรรมเสี่ยง ในการเกิดโรคติดต่อทางเพศมา ก็ควรทำการตรวจโดยเร็วที่สุด เพราะถ้าหากปล่อยไว้นาน อาจจะให้เกิดการติดเชื้อเอดส์ได้

หากไม่สะดวก ที่จะเดินทางไปตรวจ ตามสถานพยาบาล ก็มีชุดตรวจ ที่สามารถตรวจหาเชื้อได้ วางขายตามร้านขายยา หรือทางออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทาง สำหรับผู้ที่ไม่กล้าที่จะไปตรวจ ตามสถานพยาบาล