ตรวจเลือด – ตรวจปัสสาวะ มีประโยชน์ยังไง???

By | กันยายน 30, 2018

>> การตรวจเลือด

     สำหรับการตรวจเลือดนั้นผู้ที่ต้องการตรวจเลือดจะต้องเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อม ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หักโหมจนเกินไป งดดื่มสุรา งดยาบางชนิด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง) สำหรับเรื่องของอาหารนั้นสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ยกเว้นในการตรวจหาปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือด ควรงดอาหารนาน 8 – 12 ชั่วโมงก่อนเจาะเลือด (แต่สามารถดื่มน้ำเปล่าได้) โดยใช้เลือดประมาณ 8 – 10 ซีซี ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณเลือดในร่างกายที่มีทั้งหมดประมาณ 5,000 ซีซี

     โดยเลือดที่เจาะไปนั้นจะสามารถใช้ตรวจโรค 

     – ตรวจนับเม็ดเลือด เพื่อช่วยวินิจฉัยโรคเลือด เช่น ทาลัสซีเมีย ลิวคีเมีย

     – ตรวจสมรรถภาพของตับ ช่วยในการหาสาเหตุของภาวะดีซ่าน ช่วยวินิจฉัยโรคตับ เช่น โรคตับอักเสบ

     – ตรวจสมรรถภาพของไต ช่วยในการวินิจฉัยโรคของไต เช่น ภาวะไตวาย

     – ตรวจระดับไขมันในเลือด ช่วยในการวินิจฉัยภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน

     – ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยในการวินิจฉัยและติดตามผลการรักษาในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

     – ตรวจหาปริมาณฮอร์โมน ช่วยวินิจฉัยโรคของต่อมไร้ท่อ เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ

     – ตรวจหาโรคติดเชื้อทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส

      – ตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคออโตอิมมูน เช่น โรคเอสแอลอี โรคข้ออักเสบรูห์มาตอยด์

     >>> การตรวจปัสสาวะ

     :: การตรวจปัสสาวะมีประโยชน์หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการบอกถึงความผิดปกติของไต และระบบทางเดินปัสสาวะ โดยบอกได้ทั้งความผิดปกติของหน้าที่การทำงาน เช่น ไตวาย และความผิดปกติทางกายวิภาค เช่น การอักเสบติดเชื้อ นิ่ว เป็นต้น

     สำหรับน้องๆ ที่ต้องการตรวจปัสสาวะนั้นจะต้องมีการเตรียมตัวที่ถูกต้อง ผู้ตรวจปัสสาวะต้องเก็บปัสสาวะที่ถ่ายหลังตื่นนอนตอนเช้า เพราะจะมีความเข้มข้น สามารถพบตะกอนของสารต่างๆ ได้ดี แต่มีเคล็ดลับเล็กๆ คือ ควรถ่ายปัสสาวะทิ้งไปเล็กน้อยก่อนแล้วค่อยถ่ายใส่ภาชนะ เพื่อลดการปนเปื้อนของเซลล์ต่างๆ บริเวณส่วนต้นของท่อปัสสาวะ สำหรับสตรีที่มีประจำเดือน ไม่ควรตรวจปัสสาวะ เพราะอาจมีการปนเปื้อนของเม็ดเลือดแดงขณะเก็บปัสสาวะ ทำให้แปรผลผิดพลาดได้